วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

[Fic] พี่ปี4 กับน้องเฟรชชี่ปี1 (Atsuyuu) - Our First Date




Our First Date


ภายในร้านกาแฟเล็กๆที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่มีคนพลุกพล่าน ข้างในร้านเต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น บรรยากาศภายในร้านกลับดูอบอุ่นแม้ว่าภายนอกร้านจะเริ่มมีฝนตกโปรยปรายลงมาบ้างแล้ว ภายในร้านคนกลับไม่พลุกพล่าน คงเพราะยังไม่ใช่เวลาที่คนจะเข้ามาใช้บริการ มีเพียงโต๊ะริมหน้าต่างที่เธอนั่งอยู่เพียงลำพัง และอีก2-3โต๊ะในร้านตามมุมต่างๆบ้างก็นั่งคนเดียวเหมือนกับเธอ บ้างก็มาเป็นคู่

เหลือบมองนาฬิกาที่ใส่อยู่ตรงข้อมือเหลือเวลาอีกเกือบชั่งโมงกว่าจะถึงเวลานัดกับคนเด็กกว่า แอบยิ้มกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี เพียงเพราะนึกถึงหน้าของอีกคน ตั้งแต่เธอคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตของเธอ ทุกอย่างก็ดูสวยงามไปหมด ยกแก้วลาเต้ร้อนที่สั่งไว้ขึ้นมาจิบ ก่อนจะทิ้งตัวลงหลังพิงกับโซฟานุ่ม หลับตาลงดื่มด่ำกลับกาแฟรสนุ่มในมือ



                  [Flashback]



“เค้าจะไปด้วย ยังไงเค้าก็จะไปด้วย”

“ก็ฉันบอกอยู่นี่ไง ว่าไปไม่ได้”

“ทำไม?”

“อัตจัง”

“ยูโกะนะ จะไปเดทใช่ไหมละ ถึงไม่ยอมให้ฉันไปด้วยนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนฉันไม่ต้องร้องขอ ยูโกะก็จะชวนฉันไปด้วยตลอด”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะอัตจัง”พยายามพูดกับคนเด็กกว่าให้เข้าใจ”ฉันแค่มีเรื่องที่ฉันอยากจะทำคนเดียว”พูดไม่ทันจบก็โดนคนเด็กกว่าพูดขัด

“ไม่สนใจแล้ว ฉันนะ ยูโกะจะไปทำอะไรที่ไหนกับใครก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันสักนิด”

เห็นคนเด็กกว่างอแงแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ ก็จะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์จะให้ไปด้วยได้ยังไง เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่เธออุส่าตั้งใจทำงานพิเศษเก็บเงินจนซื้อให้ได้ เป็ทั้งของขวัญวันเกิด และของขวัญบอกลา เพราะอาทิตย์หน้าเอจะต้องย้ายบ้านออกไปแล้วนะสิ

นึกได้อย่างนั้น เรื่องง้ออีกคนคงเอาไว้ทีหลังเพราะเชื่อว่าถ้าได้เห็นของขวัญจากเธอเด็กคนนั้นก็คงเลิกงอนไปเอง เรียกเค้าว่าเด็กแต่จริงๆตอนนี้ยัยนั่นก็อยู่ม.2 แล้วนะ ส่วนฉันที่เป็นพี่ข้างบ้านก็กำลังจะจบม.5 ต้องย้ายไปอยุ่โรงเรียนใหม่ตรงช่วงกลางเทอมแบบนี้ก็อดที่จะทำให้ฉันรู้สึกลำบากใจไม่ได้
เดินเรื่อยเปื่อยจนมาถึงร้านที่มาสั่งทำของเอาไว้ รีบตรวจเช็ครายละเอียดก่อนที่จะบอกให้เค้าใส่กล่องและห่อของขวัญให้ด้วย รีบจ่ายเงินก่อนจะหยิบของมาซุกไว้อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีชมพูใบใหญ่ที่ชอบถือเป็นประจำ เดินออกมาจากร้านเห็นว่ายังมีเวลาเลยตั้งใจจะเดินเล่นพร้อมหาอะไรกินก่อนกับบ้าน แต่จู่กลับรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม หันกลับไปดูก็ไม่เห็นใคร เริ่มไม่ไว้ใจ รีบเดินหลบเข้าไปในร้านขายของชำตรงหน้าเพื่อดูให้น่ใจว่ามีคนตามมาหรือเปล่า

ก่อนที่จะเห็นเด็กที่เพิ่งบอกเธอว่าจะไม่สนใจเธอแล้วเดินตามเข้ามาในร้าน ทำท่าสอดส่องเหมือนหาใครอยู่ อดที่จะนึกแกล้งไม่ได้ เลยแอบเดินไปข้างหลังก่อนจะเอามือฟาดที่หัวอีกคนเบาๆ

“ไหนบอกจะไม่สนใจฉันแล้วไง”

“ก็ไม่ได้สนไง แล้วเธอจะมาตีฉันทำไมเนี่ย”

“แล้วเธอจะมาตามฉันทำไม?”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ตาม ยูโกะจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเธอ”

“ถ้าอย่างนั้น ก็ขอโทษแล้วกันที่เข้าใจผิดคิดว่าเธอตามฉันมา กะว่าจะชวนไปเดินเล่น ดูหนัง ทานข้าวด้วยซะหน่อยไหนๆก็เห็นว่าอุส่าตามมาทั้งที” หยุดพูดเพื่อมองปฏิกิริยาคนตรงหน้า

“ฉันคงเข้าใจผิดซินะ”พูดพร้อมแกล้งทำหน้าเศร้า “งั้นก็แยกกันตรงนี้แล้วกัน ไม่อยากจะทำให้เธอเสียเวลานะ” เสร็จแล้วก็ทำท่าหันหลังเพื่อนจะเดินออกจากร้าน แต่ก็อดที่จะแอบยิ้มไม่ได้เมื่อรู้สึกถึงมืออุ่นๆมาจับเธอไว้

“เมื่อกี้นี้ เธอชวนฉันไป...เดท...ใช่ไหม?”

หันหลังกลับไปมองหน้าอีกคนที่ก้มหน้างุดๆ แก้มขึ้นสีแดงอมชมพู

“อื้ม ไปไหมละ”



...............................................................




เดินจับมือกันไปตามทางเดิน เห็นร้านหรืออะไรน่าสนใจก็แวะเข้าไปดูบ้าง เห็นคนเด็กกว่ายิ้มแย้มสนุกสนาน ตื่นเต้นกับเรื่องๆเล็กๆน้อยๆ คอยชวนเธอเดินไปดูนั่นดูนี่ ที่เธอคิดว่าน่าสนใจก็อดที่จะรู้สึกมีความสุขไปด้วย ความรู้สึกอบอุ่นที่กำลังห่อหุ้มหัวใจเธอในตอนนี้ กลับทำให้รู้สึกโหวงๆในใจอย่างบอกไม่ถูก ยังไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองจะย้ายบ้านให้เค้าได้รู้ ไม่รู้ว่าคนเด็กกว่าจะแสดงอาการยังไง

“ยูโกะ เป็นอะไรไปหรอ”

“ป..เปล่านี่”หลุดออกจากความคิดของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากคนเด็กกว่า ยื่นหน้าเข้ามาซะไกล้ห่างจากหน้าเอไม่ถึงคืบแถมยังมายืนยิ้มตาหยีอย่างนี้อีก ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะ จากจะลากมาจูบซะให้สมใจ

“ก็เห็นนิ่งๆไป คิดว่ายูโกะคงจะเบื่อแล้วซะอีก”

“ยัยเด็กโง่” พูดพลางเอามือขยี้ผมอีกคนเบาๆ “ฉันจะไปเบื่อเธอได้ยังไงกัน ฉันว่านี่ก็เย็นแล้วเรากลับบ้านกันดีไหม”

“แต่ฉันยังไม่อยากกลับนิ”

“อย่าดื้อเลยน่า ป่านนี้แม่เธอคงจะเป็นห่วงเธอแย่แล้ว เอาไว้คราวหน้าฉันจะพาเธอออกมาเที่ยวใหม่ ตกลงไหม?”

“สัญญานะ”

“อื้ม”



.........................................................................................




กลับมาถึงหน้าบ้าน

“เข้าบ้านไปได้แล้ว”

“ก็ยังไม่อยากนิ” พูดพร้อมแกว่งมือที่จับกันอยู่ไปมา

“อัตจัง”

“ไม่เข้าไปบ้านฉันก่อนหรอ?”

“ไม่หรอก เธอก็เข้าบ้านไปซะที่เถอะนะ”

“ก็ได้ๆๆๆ” พูดแบบไม่ค่อยเต็มใจ ก่อนจะยิ้มให้เธออย่างเจ้าเล่ห์ “ที่ยูจังบอกว่าคราวหน้าจะพาฉันไปเที่ยวอีก ถือว่าสัญญาแล้วนะ เป็นเดทครั้งที่2ของเรานะ”

“ด..เดทหรอ? จะเรียกอย่างนั้นฉันก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ”

“น่ารักจังเลย ยูจังน่ารักที่สุดเลย”พูดก่อนที่จะกระโดดเข้าไปเอาแขนขึ้นมาโอบคอเธออย่างดีใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะถึงกับหยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากของคนเด็กกว่าแตะที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ แม้จะเป็นเพียงเวลาไม่กี่วิก่อนที่เด็กคนนั้นจะผละออกมา

“ขอบคุณนะ วันนี้ฉันมีความสุขมากที่สุดเลย”ก่อนจะวิ่งหนีเข้าบ้านไปทิ้งให้เค้ายืนนิ่งเอามือแตะริมฝีปากตัวเองอยู่อย่างนั้น



                   [End of Flashback]



นั่งยิ้มกับตัวเองคนเดียวเมื่อนึดถึงเรื่องในอดีต ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรไหวๆที่เคลื่อนผ่านหน้าไปมา กระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นมือของคนที่รออยู่โบกไปมาตรงหน้าเธอ

“ฉันนึกว่าเธอเป็นอะไรไปซะแล้วเรียกเท่าไรก็ไม่ตอบถามยังยิ้มคนเดียวอีก” อัตจังพูดพร้อมทำหน้าเป็นห่วง

“ฉันคิดอะไรเพลินๆปหน่อยนะ ไม่มีอะรหรอก”

“คิดถึงฉันใช่ไหมละ ไม่ต้องห่วงหรอกนะยุโกะ” พูดพร้อมเอื้อมมือไปกุมมือของคนโตกว่าขึ้นมา “ฉันนะตอนนี้อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว”

แกะมือออกก่อนจะฟาดไปที่พัวอีกคนเบาๆ

“หยุดโอเว่อร์แอคติ้งได้แล้วอัตจัง” เหลือบเห็นเวลาที่ข้อมือตัวเอง “ว่าแต่นี่ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ ทำไมถึงมาก่อนเวลาได้ละ”

เอามือลูบหัวตัวเองตรงจุดที่โดนตีเบาๆ ก่อนจะย้ายไปนั่งข้างๆคนตัวเล็กกว่า เอาหัวซบลงไปที่ไหล่เธอ ก่อนจะหยิบมือเธอขึ้นมาแล้วเล่นไปกับนิ้วของเธอ

“ก็ฉันอยากจะมารอยูโกะบ้างนะสิ ก็ปกติเวลานัดกัน เธอต้องเป็นฝ่ายรอฉันตลอดเลยใช่ไหมละ”

“ก็รู้นี่นา”

“ยูจัง” เรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงงอนๆ

“ล้อเล่นน่า”หัวเราะกับความน่าเอ็นดูของคนข้างๆเบาๆ “ฉันนะ จะรอเธอนานแค่ไหนก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ขอเพียงแต่ว่าให้เธอมาหาฉันก็พอแล้ว”

“ยูโกะ” หันหน้ากลับไปตามเสียงเรียก กลับถูกอีกฝ่ายขโมยจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะถอนริมฝีปากออกเบาๆ เพราะรู้วว่าสถานที่มันไม่เหมาะ

“ฉันนะ รักยูโกะที่สุดเลย รู้ไหม”

เขินที่จู่ๆอีกคนก็พูดคำว่ารักออกมา ปกติก็ไม่ค่อยได้บอกกันเท่าไร แต่พอได้ยินอีกฝ่ายพูดติดๆกันแบบนี้มันกลับยิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นรุนรง จนเหมือนว่าจะหลุดออกมา

“ฉันก็รักเธอเหมือนกัน” พูดเบาๆแต่ก็ดังพอที่จะให้อีกฝ่ายได้ยิน


..............END.......................


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

[Fic] พี่ปี4 กับน้องเฟรชชี่ปี1 (Atsuyuu) - Misunderstand(nc)





ตอน  Misunderstand (NC)

“อัตจัง นี่มันหมายความว่ายังไง” ผู้หญิงตัวเล็กยืนอยู่หน้าห้องเรียนกำลังยืนโทรศัพท์มาตรงหน้าคนตัวสูงกว่าที่ยืนอยู่หน้าห้องเรียน

“เค้าขอโทษนะ เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ พอรู้ตัวอีกทีมือมันก็เผลอลบไปหมดเองแล้วอะ” พูดขอโทษพร้อมพยามส่งยิ้มที่เธอคิดว่าน่ารักที่สุดให้คนตรงหน้า

“แต่นี่มันรายชื่อเพื่อนฉันนะ แล้วรู้สึกว่ามือเธอจะเผลอลบแต่เพื่อนผู้ชายฉันอย่างเดียวเลยนะ”

“ขอโทษจริงๆนะ ยูจัง”

แป็ก

เสียงมือของคนตัวเล็กสำผัสกับหัวของคนตัวสูงกว่าที่กำลังลูบหัวตัวเองที่โดนตีเมื่อตั้งกี้ เสมือนว่าเจ็บซะเต็มประดา

“ยูโกะ เค้าเจ็บนะ” พูดใส่อีกคนพยายามตีสีหน้าให้เจ็บปวกที่สุด ทำให้คนตัวเล็กกว่าอดจะหมั่นไส้ไม่ได้

“ถ้าเจ็บขนาดนั้นละก็ ที่หลังก็จำไว้ด้วยละ ว่าอย่ามายุงกับของฉันแบบนี้อีก” พูดจบก็เอาโทรศัพทืเก็บใส่กระเป๋าตัวเอง ก่อนจะบอกลาแยกย้ายไปเพราะเธอเองวันนี้ก็มีเรียนเหมือนกัน

มาเอดะ อัตสึโกะ เดินกลับเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม จนเพื่อนๆที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรก อดที่จะถามออกมาไม่ได้

“นี่อัตจัง ทำไมถึงทำท่ามีความสุขอย่างนั้นละ เพิ่งโดนรุ่นพี่ยูโกะว่ามาเองไม่ใช่หรอ”

แหะๆๆ ส่งยิ้มแห้งๆให้เพื่อน

“ไม่มีอะไรหรอกนะ ยูโกะนะเป็นคนใจดีมากเลยนะ”

“เดี๋ยวนะ เธอเรียกรุ่นพี่เค้าว่ายูโกะเฉยๆ สนิทกันหรอ”

“อื้ม ก็ยูโกะนะ เป็นพี่ข้างบ้านฉันเองนะ ตั้งแต่สมัยเด็กๆเราสนิทกันมากเลยนะ จนพี่เค้าย้ายบ้านไปนะถึงได้ห่างกัน จนมาเจอกันอีกครั้งก็ที่นี่นั่นแหละ”

“อ่า ดีจังเลยนะ”เพื่อนของเธอต่างก็พูดด้วยความอิจฉา

“รุ่นพี่ยูโกะนะ ทั้งเรียนดี กีฬาก็เริศ แถมหน้าตายังน่ารักอีกด้วย” เพื่อนผู้หญิงที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มพูด

“นั่นสินะ ถ้าได้รุ่นพี่เป็นแฟนคงจะดี”ชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มจู่ๆก็พูดขึ้น ทำให้อัตจังอดที่จะถามไม่ได้

“ไม่ยักรู้ว่านายชอบผู้หญิงแก่กว่า”

“ม...ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่คิดว่า รุ่นพี่นะถ้าใครได้เป็นแฟนคงจะโชคดีเท่านั้นเอง”

“อย่างนั้นเองหรอกหรอ”

“จริงๆนะ จริงๆ ล่าสุดฉันได้ยินมาว่า รุ่นพี่เพิ่งถูกผู้ชายสารภาพรักมาละ รู้สึกว่าคนที่สารภาพจะชื่อ มุไค รุ่นพี่ปี4 เหมือนกันนะ”

“พี่มุไค ที่เป็นเดือนคณะวิศวะ นั่นนะ น่าอิจฉาจังเลย แล้วเป็นไงบ้างละ เค้าตกลงคบกันไหม”เพื่อนสาวเธอถามอย่างใคร่รู้
“ฉ...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอะ เรื่องนี้เธอคงต้องไปถามรุ่นพี่เอาเองแล้วละ ฉันได้ยินมาแค่นี้ละ”

“นายนี่นะ น่าจะฟังมาให้จบๆ”

“แล้วเธอคิดว่าไงละ จริงหรือเปล่าอัตจัง”

“ก...ก็น่าจะจริงมั้ง ยุโกะนะเป็นคนน่ารักมากเลยนะ แต่ถ้าอยู่ด้วยจะรู้สึกว่าเป็นคนเก็บความรู้สึก ไม่ค่อยพูดเรื่องของตัวเอง แล้วก็เดาใจยาก”

“เธอนี่ก็รู้เรื่องรุ่นพี่ดีจริงๆเลยนะ”

“ก็บอกไปแล้วไงว่าสนิทกันตั้งแต่เป็นเด็ก คิดว่าถึงแม้จะได้มาเรียนที่เดียวกันแล้ว ก็คงยากที่จะได้เจอกันอยู่ดี เพราะมหาลัยนะมันกว้างมากเลยใช่ไหมละ แต่ก็เหมือนโชคดีวันที่ลองมาสำรวจมหาลัยครั้งแรก ก็เจอกับยุโกะที่กำลังซ้อมวิ่งอยู่ เหมือนพรมลิขิตเลยใช่ไหมละ ฉันกับยูโกะนะ”

“ดีจังเลยนะ”

“ใช่ไหมละ ฉันว่า พรหมลิขิตต้องกำหนดฉันกับยูโกะได้มาเจอกันอีกครั้งแน่ๆ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยลืมเธอเลยนะ ทั้งอ้อมกอด และสัมผัส ฉันก็เชื่อว่าเธอก็ไม่เคยลืมฉันเหมือนกัน”

“พ....พูดถึงอะไรนะ”

“ล้อเล่นน่า ฉันก็พูดไปเรื่อยอย่างนั้นเอง”

บอกกับพวกเพื่อนๆว่าระหว่างพวกเธอไม่มีอะไร แต่จริงๆฉันกับยูโกะนะ......... “เราคบกันอยู่”

“ตกใจหมดเลย นึกว่าพูดจริงซะอีก ฉันเกือบจะจิ้นเธอกับรุ่นพี่แล้วรู้ไหม”

ก่อนจะพูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เค้ามาในห้องพอดีทำให้พวกเธอต้องแยกย้ายกันไปนั่งที่ แต่กับอัตจังแล้วสมาธิไม่ได้อยู่ในห้องเรียนเลยละ เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องที่พวกเพื่อนๆเธอพูดเมื่อกี้ ว่าทำไมยูโกะถึงไม่ยอมบอกเธอ เรื่องที่มีผู้ชายมาสารภาพรัก

.........................................................................

ณ ห้องล็อกเกอร์ชมรมวิ่งของมหาลัย

โอชิม่า ยูโกะ กำลังวุ่นอยู่กับการเก็บของเพราะหลังจากที่เธอบอกเลิกประชุมทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเหลือเพียงแค่เธอคนเดียว ที่เป็นทั้งประธานชมรม ต้องอยู่จัดการ ที่แรกก็มีคุณผู้จัดการชมรมมาช่วย แต่ดูเหมือนว่าอยู่ๆก็ดันมีธุระด่วนทำให้เหลือเธอคนเดียวซะงั้น

ได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมกับเรียกชื่อ

“ยูโกะ อยู่นี่เอง ฉันตามหาเธอซะทั่วเลย แล้วอยู่คนเดียวหรอ”

“อื้ม เก็บของนิดหน่อยนะ นี่ก็เตรียมจะกลับบ้านแล้ว รอหน่อยนะ จะได้กลับพร้อมกัน เดี๋ยวฉันเดินไปส่งที่หอ”

“แล้วก็ อัตจังเรื่องโทรศัพท์ฉันอีก.................................................”

ไม่ได้ฟังคนตัวเล็กพูดก็เดินเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง ถือโอกาสที่เธอกำลังงงกำลังที่เกิดขึ้น กำลังหันหน้าจะมาถามก็เลยฉวยโอกาสจูบที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะพลิกร่างเธอให้หันหน้ากลับมาหาเธอ

“อื้ม อัตจัง ป....เป็นอะไรหรอ” ยูโกะถามเมื่อคนตัวสูงละจากริมฝีปากมาซุกไซร้ตามใบหูและซอกคอแทน

“อะ...อัตจัง ไม่ได้นะ อื้ม จะทำกันตรงนี้ไม่ได้ อะ ร...รอก่อนสิ” ยูโกะพูดประท้วงเพราะมือของอีกฝ่ายเริ่มลุกล้ำร่างกายเธอบอกขึ้น

“ไม่รอหรอก ฉันไม่รอ” ยูโกะเห็นอีกฝ่ายท่าทางจะไม่ยอมง่ายๆเลยหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้มือ ก่อนจะฟาดลงไปตรงกลางหัวของอีกฝ่าย ทำให้คนตัวสูงต้องผละออกมา เอามือกุมหัวตรงที่โดนฟาด ก่อนจะพูดตัดพ้อต่อว่าคนตัวเล็กกว่า

“เค้าเจ็บนะ ยัยป้าปี4บ้า มาตีหัวเค้าอย่างนี้ได้ยังไงอะ จริงๆแล้วเธอเป็นสายSใช่ไหมเนี่ย พวกซาดิส โหดร้ายทารุณ เป็นที่สุด ฮือๆๆๆๆ” อัตจังพูดพร้อมแกล้งร้องไห้

“อย่ามา ฉันไม่อยากได้ยินคนแบบเธอมาว่าฉันอย่างนี้หรอกนะ แล้วร้องไห้น้ำตาจระเข้แบบนั้นนะหยุดได้แล้ว”
แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไม่ยอมพูดอะไร แถมยังก้มหน้าก้มตาทำหน้าเศร้าๆเหมือนคิดอะไรอยู่ เธอจึงถามขึ้น

“แล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น อัตจัง ฉันถามเธอก็ไม่ยอมตอบว่าเป็นอะไร”

“..................................................”

“อัตจัง”

“ไม่มีอะไรสักหน่อย ที่ยูโกะมีเรื่องอะไรยังไม่เห็นจะบอกฉันเลย” อัตจังลุกขึ้นยืนขึ้นก่อนจะทำท่าเดินหนีออกไปจากห้องทำให้ยูโกะต้องจับมืออีกฝ่ายไว้ แล้วดึงเข้ามาใกล้

“อัตจัง?”

“ก็ยูโกะนะ มีผู้ชายมาสารภาพรักใช่ไหมละ เป็นรุ่นพี่เดือนคณะวิศวะคนดังคนนั้น คงไม่คิดจะบอกฉันเลยใช่ไหมละ ถ้าฉันไม่ได้ไปยินมาจากคนอื่น เธอก็คงจะไม่บอกฉัน เธอไม่รู้หรอกว่าการที่ฉันได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่นนะ มันทำให้ฉันรู้สึกยังไง”
เห็นอีกฝ่ายทำท่าจะร้องไห้ ยูโกะจึงมองและพูดด้วยสายตาที่อ่อนโยนขึ้น

“ก็ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญอะไรนี่นา ที่สำคัญฉันก็ปฏิเสธเค้าไปแล้วด้วย ฉันนะ แค่เธอคนเดียวก็พอแล้ว”
“จริงๆนะ”

“อื้ม”

“แต่ยุโกะก็เป็นอย่างนี้เรื่อยเลย เรื่องสำคัญแบบนี้ก็ไม่เคยคิดจะบอกฉัน”

“นี่ เดี๋ยวก่อนสิ อัตจัง ก็ฉันบอกเธออยู่นี่ไงว่ามันไม่สำคัญและตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรแล้ว ที่เธอล่ะตอนฉันถามเรื่องบรรดาแฟนๆของเธอ เธอก็ยังเลี่ยงไม่ยอมตอบฉันเลย

“อะ เดี๋ยวสิ ทำไมอยู่ๆถึงเอาไปโยงไปกับเรื่องนั้นได้อะ”

“ใช่ไหมละ มันก็เหมือนกันนะแหละ แต่ว่านะ อัตจัง ยังไงฉันก็ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้ไม่สบายใจนะ”

เห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มเศร้าๆให้อัตจังก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ไม่ไว้ใจเค้าก่อน ก่อนจะสวมกอดยูโกะที่นั่งอยู่บนโต๊ะ

“ฉีนต่างห่างที่ต้องขอโทษยูจัง ฉันนี่ยังเด็กเกินไปจริงๆสินะ เรื่องแค่นี้ยังเอามาเป็นปัญหาได้ แถมยังเอาแต่ใจตัวเองอย่างนี้เอง ทั้งๆที่ยูจังก็แก่กว่าฉันแค่3ปีเอง”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย”ยูโกะพูดพร้อมเอามือลูบหัวคนสูงกว่า “ฉันเองก็ผิดเหมือนกัน” ก่อนจะผละจากอ้อมกอดและจูบที่ริมฝีปากอีกคนเบาๆ ก่อนจะถอยออกมาแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาประคองหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะใช้นิ้วมือไล้ที่แก้มเนียนเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้อัตจังจูบเป็นการไถ่โทษดีไหม”

ได้ยินอย่างนั้น อัตจังก็ไม่รอช้ารีบประทับริมฝีปากของตัวเองทาบทับกับอีกคนก่อนจะถอนออกมา แต่ใบหน้ายังอยู่ใกล้กันมากจากสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกัยและกัน

“ตอนนี้ได้ไหมยูจัง ตอนนี้” ไม่รอช้าก็แนบริมฝีปากตัวเองเข้าไปใหม่ ก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างอยู่ลุบไล้ไปตรงหน้าขาเนียนของอีกคน

“อื้ม อัตจัง ไม่ได้นะ ถ้า...อะ มีคนมาเห็นเค้าจะทำไง”

“ไม่มีหรอกนะ และยุจังก็พูดเองด้วยว่าจะให้ฉันจุบ ที่สำคัญฉันก็ล็อคห้องไว้แล้วด้วย”

“อ่า”เสียงครางที่ดังขึ้นมาจากในลำคอเพราะตอนนี้ในโพรงปากเธอถูกคนตัวสูงกว่าเข้ามารุกล้ำดูดชิมความหวานก่อนจะถอนออกมาเพพราะต้องการอากาศหายใจ

“นี่เธอวางแผนมาแต่เรกแล้วใช่ไหมเนี่ย”

“ม..ไม่ใช่นะ แต่ฉันว่ามันก็ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือไงที่ฉันล็อคประตูนะ” อัตจังพูดพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่แสดงความต้องการเป็นอย่างมาก

“ยูจัง เธอนะอย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องเลย” พูดจบก็ไม่เปิดโอกาศให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธ เพราะกดริมฝีปากเข้าไปรุกล้ำอีกฝ่ายให้เพียงแต่ส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ใช้มือข้างที่ว่างปลดกระดุมเสื้อที่คนตัวเล็กสวมอยู่รวมถึง ก่อนจะเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอเสื้อในและปัดขึ้นไปกองไว้ที่เนินอก เผยให้เห้นถึงหน้าอกอวบขาวและยอดอกสีชมพูที่กำลังตั้งชุชันขึ้นมาเพราะสัมผัสกับอากาศเย็นภายนอก

ไม่รอช้า อัตจังเลื่อนหน้าตัวเองให้ต่ำลงมาใช้ริมฝีปากครอบครองยอดอก ใช้ลิ้นดูดเลียให้ให้อีกฝ่ายถึงกับใช้มือกดศรีษะของเธอไว้อย่างนั้น ส่งเสียงครางเบาๆเพราะรู้สึกพอใจในสิ่งที่คนตัวสูงกว่ากำลังทำให้

เมื่อได้ยินเสียงครางของอีกฝ่าย คนตัวสูงก็ยิ่งรุ้สึกดี ใช้มือข้างที่ว่างขึ้นมาบีบนวนเฟ้นหน้าอกอีกฝั่งข้างที่ว่างอยู่ ก่อนจะสลีบข้างกันจนเธอพอใจ ก่อนจะเลื่อนลงมาพรมจูบอีกฝ่ายตามหน้าท้อง มือก็ลูบไล้ขาด้านในไกล้กับจุดสำคัญ ก่อนจะก้มหน้าลงไปจนเห็นกางเกงชั้นในตัวบางที่ตอนนี้มีรอยเปียกอยู่ ใช้มือถอดกางเกงชั้นในออกมาโดยคนตัวเกก็ยกสะโพกช่วย ก่อนจะก้มหน้าลงไปใช้ลิ้นลากเลียกลีบงามจากด้านล่างถึงด้านบนจดหยุดอยู่ที่เม็ดติ่งสวยสีชมพู ใช้ริมฝีปากขบเม้นส่วนนั้นเบาๆ ทำให้อีกฝ่ายร้องครางออกมาเสียงดังก่อนจะใช้มือดันหัวเธอจนชิดกับส่วนนั้น

“อื้ม ฮ่า...........อัตจัง”

ไม่รอช้าใช้นิ้วมือแยกกลีบสวยออกจากกันก่อนจะใช้ลิ้นแทงลงไปที่ช่องว่างที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมา พร้อมกับกำแพงที่บีบตอบรัดกับลิ้นของเธอ ใช้ลิ้นแทงเข้สออกเป็นจังหวะเร็วบ้างช้าบ้าง ก่อนจจะใช้นิ้วนวดคลึงเม็ดติ่งสวย จนทำให้อีกฝ่ายกรีดร้องเรียกชื่อเธอ พร้อมเกร็งและกระตุกร่างกาย2-3ทีก่อนที่น้ำรักจะไหลทะลักออกมาทำให้เธอต้องรีบดูดกลืนทำความสะอาดจนเกลี้ยง

อัตจังจึงย้ายตัวเองขึ้นมาจูบกับอีกฝ่ายให้เค้าได้ชิมรสชาดิของตัวเอง รอให้ยูโกะรวบรวมสติและปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ก่อนจะใช้มือปัดผมที่ลงมาปรกหน้าอีกคนเบาๆและยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเมื่อได้สบตาของอีกฝ่าย

“นี่ยูจัง ฉันจะบอกอะไรให้รู้ไหม แต่ว่ายูจังต้องสัญญานะว่าจะเป็นความลับของเรา2คนเท่านั้น”

“อื้ม”

“ฉันนะ มีความสุขที่สุดเลยนะเวลาที่ได้ทำแบบนี้กับยูจังนะ”

ไม่ทันได้ให้อีกฝ่ายตั้งตัวก็เอานิ้วแทงลงไปที่ส่วนกลางของอีกฝ่ายทำให้ถึงกับสะดุ้งและร้องครางออกมาเสียงดัง

“อ๊า.. อัตจัง”

มองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังส่งเสียงครางพร้อมกับเด้งสะโพกไปมาตามจังหวะนิ้วที่เธอสอดใส่เข้าไป

“อะ....อื้ม อัต....อัตจัง”

“เธอรู้ไหม ว่าฉันนะชอบเธอมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ คิดว่าคนที่ฉันชอบตลอดมาก็มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น”

“อะ ฮื้ม แรงๆๆแรงอีกนิดนะ”

“ฉันนะที่คบกับคนอื่น ก็เพราะว่าฉันอยากจะลืมยูจังแหละ แต่ก็รู้สึกว่าคงไปกันไม่รอดก็เลยเลิกลากันไป” อัตจังพูดพร้อมกับเพิ่มนิ้วที่กำลังขยับเข้าออกร่างกายของอีกฝ่ายเป็น2นิ้ว

“อ้า...”

รู้สึกถึงความเจ็บที่หัวไหล่ของตัวเอง คงเป็นเพราะว่าอีกคนใช่มือจิกเอาไว้ เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้ามีความสุขก็อดจะรู้สึกมีความสุขไปด้วยไม่ได้

“ตอนที่ฉันมาเจอครั้งแรกที่มหาลัย ฉันนะดีใจมากเลยนะ คิดไว้เสมอว่าถ้าเจอเธอครั้งนี้ จะไม่ยอมให้เธอไปไหนอีกแล้ว”

“อะ อื้ม อัตจัง ฉันใกล้แล้ว”

เร่างจังหวะนิ้วเจ้าไปอีกก่อนจะใช้นิ้วโป้งกดที่เม็ดติ่งสีชมพู ส่งผลให้ร่างอีกฝ่ายกระตุกเกร็งก่อนที่เธอจะจูบไปที่ริมฝีปากเพื่อลดเสียงครางที่ดังออกมา ดันนิ้วเข้าออกอีก2-3ครั้ง เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายผ่อนคลายลงจึงค่อยๆถอนนิ้วออกมา
มองหน้าของคนที่อยู่ด้านล่างก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้

“ฉันแค่อยากจะบอกว่า ฉันนะ รักเธอที่สุดเลยนะ ยูโกะ”

จัดการช่วยอีกฝ่ายจัดเครื่องแต่งกายตัวเองให้เรีบยร้อย ก่อนจะหันกลับมาจัดการกับทรงผมของตัวเองที่ถูกคนตัวเล็กทำซะยุ่งเหยิง

“นี่ พูดจริงๆใช่ไหมเรื่องเมื่อกี้นะ”

“ร...เรื่องอะไรหรอ” ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก็เรื่องแบบนี้นะ จะให้พูดบ่อยๆได้ยังไงละ เขินแย่

“งั้นฉันคงคิดไปเองสินะว่าเธอพูด เสียใจจัง” ยูโกะพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ

“อุส่าคิดว่า เธอจริงจังซะอีกกับเรื่องที่พูดไป คิดว่าไม่ยุติธรรมที่ให้เธอเป็นฝ่ายบอกคนเดียว ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่สำคัญอะไรแล้วละเรื่องที่ฉันอยากจะพูด” ก่อนจะหันไปเก็บของที่ค้างไว้ก่อนคนตัวสูงเข้ามา เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอย่างนั้นก็อดที่จะรู้สึกผิดไปได้ ไม่รู้จะทำยังไง ตัดสินใจพูดออกไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเสียงตะโกนมากกว่าเพราะว่ามันดังกว่าที่เธอคิดไว้

“ฉันรักเธอ เมื่อกี้ที่เธอถาม ฉันบอกว่าฉันรักเธอ” พูดจบก็ก้มหน้าก้มตามองไปที่พื้นเสมือนว่ามันมีอะไรน่าสนใจ ยูโกะที่ได้ยินอย่างนั้นก้อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ เดินเข้าไปหาคนตัวสูงก่อนจะสวมกอดที่เอาเค้า เงยหน้าขึ้นมองอีกคนที่พยามยามหลบสายตา

“ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”

“ย....ยูจัง”

“นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยินเธอพูดคำนี้ นึกว่าจะไม่ได้ยินเธอแล้วซะอีก”พูดล้อๆก่อนที่จะปล่อยจากอ้อมกอดแต่เปลี่ยนมาจับมือแทน

“ไปกันเถอะ เย็นแล้วเดี๋ยวฉันจะไปส่งที่ห้องตามที่บอกเอาไว้”

“อะ ฮื้ม เดินตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะกระตุกมืออีกคนให้หันกลับมามองหน้าเธอ”

“หื้ม”

“พี่ค่ะ คืนนี้ฉันขอไปนอนห้องพี่ได้ไหมอะ”

“ได้สิ แต่ว่า อัตจังเรียกฉันว่าพี่อย่างนี้ น่ารักจังเลยนะ”

พูดยิ้มๆก่อนจะเดินจับมือพากันออกมาที่นอกมหาลัย ปล่อยให้อีกคนได้แต่ก้มหน้าเขิน


.............................................จบตอน......................................................


จบไปแล้วกันตอนแรก 

ที่แรกคิดว่าจะแต่งแบบไหนดีนะ จะเป็น ช็อคฟิค หรือ ฟิคยาวๆ หรือจะเป็นOS

สรุปว่าก็เอาเป็น เรื่องจบในตอนแทนแล้วกัน

เพราะจะได้ไม่ต้องมีรู้สึกผิดมากเพื่อมีคนรออ่าน

ตอนนี้มีฟิคเรื่องยาวอยู่อีกเรื่องนึง พยายามจะเอาให้จบก่อน


วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

[One Shot] Promise me - Kojiyuu

“เป็นอะไรของเธอนะ, ฮารุนะ? ผู้หญิงคนนั้นเค้าทำกับเธอไว้ขนาดไหน เธอยังไปคุยกับเค้าอีก”

“ยูโกะ เธอนั่นแหละเป็นอะไร? เค้าก็ขอโทษไปแล้วกับสิ่งที่เค้าทำ ฉันยังไม่เห็นเป็นอะไร แล้วเธอจะโกรธทำไม”

“ยังมีหน้ามาถามอีกว่าฉันโกรธทำไม รู้อะไรไหม ฉันว่าฉันออกไปข้างนอกก่อนดีกว่า เพราะถ้าอยุ่ต่อไปเราคงได้ทะเลาะกันมากกว่านี้แน่” ยูโกะพูดจบก็เดินออกจากอพาทเมนท์ที่พวกเค้าเช่ากันอยู่2คน โดยไม่หันไปมองว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะทำสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้สิ่งที่เค้าต้องการคือการสะกดใจตัวเองไม่ให้โกรธไปมากกว่านี้

ขับรถออกมาจนมาเจอกับร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากจะต้องการดื่มเพื่อที่จะลดอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในใจตอนนี้ เข้าไปก็เลือกเข้าไปนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์ ก่อนจะสั่งว็อดก้ามาดื่ม

ดื่มเครื่องดื่มแก้วแรกเสร็จ ก็มีผู้หญิงผมยาว หน้าตาสะสวยเดินเข้ามาทัก

“คุณคือ โอชิม่า ยูโกะ ใช่ไหมค่ะ”

“ทักผิดคนแล้ว ยัยนั่นเป็นใครฉันไม่เห็นรู้จัก” ก่อนจะกระดกเครื่องดื่มแก้มที่2ที่สั่งมาจนหมด

“ไม่เห็นจะต้องทำท่าโกรธเลยนี่ ฉันเห็นคุณมาคนเดียวกลัวจะเหงา ให้ฉันนั่งเป็นเพื่อนนะค่ะ”

“เธอนะ จะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่ามายุ่งกับฉันก็พอ”พูดเสร็จก็หันหน้าหนี ก่อนจะกระดกแก้มเหล้าในมือ
ผู้หญิงคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอใช้มือโอบคอของยูโกะ แล้วเอียงหน้าเข้าไปเกือบที่จะแนบชิดกับใบหน้าของอีกคน

“ฉันแค่คิดว่า คุณต้องการความสนุกซะอีก ถึงได้มานั่งดื่มคนเดียวตอนนี้ และฉันคิดว่า ฉันก็มอบให้คุณได้นะ”
ยูโกะได้ยิยอย่างนั้นก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย เธอเลื่อนหน้าของเธอใกล้ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปอีก จนกระทั่งรู้สึกถึงลมหายใจร้อนของอีกฝ่าย

“เธอรู้อะไรไหม สิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คืออยู่คนเดียว ถ้าเธอขืนยังมาตอแยฉันอยู่อย่างนี้ละก็ฉันจะบอกการ์ดที่เฝ้าอยู่ให้ไล่เธอออกไป เข้าใจไหม?” พูดจบก็ผละออกมาสนใจกับแก้วเหล้าตรงหน้าเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะเธอพยามยามจะเอื้อมมือมาแตะยูโกะ

“ถ้าเธอเข้าใกล้ หรือมายุ่งกับฉันอีกนิดเดียว อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” ยูโกะพูดขู่เสียงเย็น ทำให้เธอคนนั้นต้องยอมถอยออกไปด้วยท่าทางที่หงุดหงิดเป็นอย่างมาก

นั่งกระดกแก้มเหล้าในมือ หมดไปเป็นแก้วที่เท่าไรก็ไม่รู้  นั่งนึกถึงเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำ ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำไมถึงได้ใจร้ายกับตัวเองนัก เค้าต้องใช้เวลานานเท่าไรเพื่อให้อีกฝ่ายยอมตกลงรับเค้าเป็นแฟน ต้องคอยอยู่เป็นเพื่อน คอยซับน้ำตาที่เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนนั้นเลือกที่จะทรยศความรักของเธอ แต่ดูเหมือนทุกอย่างที่เค้าทำกับให้กับเธอมันคงหมดความหมาย เพราะวันนี้ฮารุนะได้เจอกับเค้าทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยอมให้เค้าจับมือถือแขนอีก อย่างว่าเค้าคงเป็นได้แค่ตัวแทนหรือเพื่อนคลายเหงาของอีกฝ่ายมั้ง พอตอนนี้ตัวจริงกลับมาตัวเค้าก็ไร้ค่าเหมือนเดิมจะว่าหลอกตัวเอง หรือโดนเธอหลอกคงไม่ใช่ เพราะส่วนลึกในใจเค้าก็รู้สึกอยู่เสมอว่าเธอไม่ได้รักเค้า อย่างที่เค้ารักเธอ คบกันมาเกือบปีไม่มีครั้งไหนสักครั้งที่อีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายแสดงออกว่ารักกัน ไม่มีแม้กระทั่งคำพูด ที่เค้าคิดถ้าได้ยินสักครั้งก็ยังดี ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหกก็ตาม

นั่งดื่มจนลืมเวลา จนกระทั่งบาร์เทนเดอร์ต้องมาบอกว่าร้านปิดแล้ว เค้าจึงจ่ายเงินแล้วก็เดินออกมาจากร้าน แม้ว่าตัวเค้าในตอนนี้แต่ไม่อยากกลับ แต่ในเมื่อไม่มีที่ไปและแอบหวังลึกๆในใจว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นห่วงและรอเค้ากลับบ้าน ก็เลยตัดสินใจกลับ ถึงหน้าห้องกดรหัสเปิดประตูเข้าไป ถอดรองเท้าทิ้งไว้ที่หน้าห้องก่อนที่จะลากร่างกายตัวเองเดินเข้าไปตามทางเดินจนถึงห้องรับแขก กดเปิดสวิซ์ไฟในห้องให้สว่าง แล้วก็อดจะแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นคนตัวสุงนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไรจึงเดินเลยเข้าไปในห้องครัวเปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นในตู้รินใส่แก้วแล้วดื่มจนหมด ก่อนจะเดินออกมาจากห้องและเห็นอีกคนยังคงนั่งอยุ่ที่เดิม

“ยังไม่นอนอีกหรอ?”

“จะนอนได้ยังไงในเมื่อเธอยังไม่กลับ”

“งั้นเหรอ”

“ทำไมถึงทำอย่างนั้น”

“ทำอย่างนั้น เธอหมายถึงอะไร”

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยนะยูโกะ มาโวยวายแล้วก็หนีออกไปข้างนอกทั้งแบบนั้น”

“ก็ไม่เห็นแปลก ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากจะอยู่ทะเลาะด้วย”

“นี่ยูโกะ เธอไม่คิดว่าเราต้องคุยกันหน่อยหรอ ฉันไม่ชอบเลยนะที่เราเป็นแบบนี้”

“ไว้วันหลังแล้วกัน ตอนนี้ฉันปวดหัว ไม่อยากจะคุยอะไรทั้งนั้น”พูดจบก็ก็เดินเข้าไปในห้องนอนรับแขก “แล้วก็คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่นะ ไม่อยากรบกวนเธอนะ มีแต่กลิ่นเหล้าเธอคงไม่ชอบ”แล้วก็ปิดประตูห้อง ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน หัวก็หมุนเพราะฤทธิ์เหล้า ไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่านึกถึงใบหน้าของอีกคน หนังตามันก็ค่อยๆหนักขึ้น จนหลับไปเมื่อไรก็ไม่รู้

...........................................................................

ลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก สายตากรอกไปมามองรอบๆตัวที่ไม่ค่อยคุ้นใช้เวลาคิดสักแปปจึงรู้ตัวว่าอยู่ในห้องนอนรับแขกของตัวเอง พยายามขยับร่างกายตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ก็รู้สึกว่ามีอะไรหนักๆทับตัวเองอยู่ข้างๆ ก้มลงมามองก็เห็นคนตัวสูงนอนกอดเธออยู่ จึงทิ้งตัวนอนลงเบาๆเพราะไม่อยากทำให้อีกคนตื่น ด้วยความที่ดื่มมาค่อนข้างเยอะทำให้ยุโกะตอนนี้ปวดหัวเหมือนจะระเบิด จึงส่งเสียงครางกับตัวเองเบาๆ ซึ่งก็เหมือนจะทำให้อีกคนรู้สึกตัวตื่น ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงเอามือมาสัมผัสที่หัวเค้าเบาๆ

“ปวดหัวมากหรอยูจัง นั่นสินะก็ท่าทางจะดื่มมาเยอะเมื่อคืน”

จะส่งเสียงตอบเป็นประโยคยาวๆ ก็มีแต่เสียงแหบแห้งออกมา และรู้สึกแสบคอเป็นที่สุด ทำให้เธอได้แต่ส่งเสียงตอบรับในลำคอเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายเหมือนจะลุกขึ้นจากเตียงทำให้เค้าจับมือรั้งเธอไว้ไม่ให้ไปไหน จนทำให้คนตัวสูงหันกลับมามอง

“ฉันไม่ได้ไปไหนหรอก แค่จะไปเอายาแล้วก็น้ำให้เธอดื่มนะ จะได้ดีขึ้น”ฮารุนะพูดแค่นั้นก่อนจะปล่อยมือและเดินไปข้างนอก รุ้ทั้งรู้ว่าเค้าแค่ออกไปเอาน้ำแต่ทำไมตอนที่เธอปล่อมมือไป ความรู้สึกฉันในตอนนั้น มันช่างว่างเปล่า น้ำในตามันก็ค่อยๆไหลออกมาเองจนฉันต้องเอาท่อนแขนมาปิดบังตาตัวเองไว้ สักพักก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา เสียงแก้มน้ำถูกค่อยๆวางไว้ที่โต๊ะตรงหัวเตียง ก่อนที่จะรู้สึกถึงน้ำหนักตัวของอีกคนที่นั่งลงบนที่เตียงเบาๆ

“ทานยาก่อนนะ”เสียงหวานดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้น หยิบยาและน้ำขึ้นมากิน ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งโดยมีอีกคนช่วย ก่อนที่ฉันจะเอาท่อนแขนมาวางไว้เพื่อปิดตาตัวเองอย่างเดิม เสียงถอนหายใจของฮารุนะดังขึ้น

“เรื่องเมื่อคืน ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะทำให้เธอไม่พอใจขนาดนี้” ฮารุเงียบไปเหมือนรอให้ฉันพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรเธอก็เลยตัดสินใจพูดต่อ

“ฉันแค่ไม่ได้เจอเค้ามานาน มาริโกะ”

ชื่อนี้อีกแล้ว ชื่อที่ทำให้ยูโกะรู้สึกขมขื่นทุกครั้งที่ได้ยิน

“เราก็เลยดื่มและคุยอะไรกันนิดหน่อย เค้ามาขอโทษ แล้วก็ขอให้ฉันยกโทษให้ ซึ่งฉันก็ยกโทษให้เพราะเรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว”

“อื้ม”

“ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาเพราะเรื่องนั้นทำให้ฉันเจ็บปวดและร้องไห้ขนาดไหน ต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำยูโกะ เพราะมีเธออยู่เคียงข้างทำให้ฉันผ่านมันมาได้ เพราะฉะนั้น เธอก็อย่าโกรธเค้าเลยนะ เพราะฉันยังให้อภัยเค้าได้เลย ฉันก็หวังว่าเธอจะทำได้เหมือนกัน”

ฉันที่ได้ยินอย่างนั้นจึงทนไม่ไหว ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง โดยใช้หลังพิงกับหัวเตียง

“เธอจะให้ฉันให้อภัยเค้าเนี่ยนะ ฮารุนะ เค้าทำให้เธอเจ็บปวดขนาดไหน ร้องไห้ขนาดไหน ฉันต้องพยายามขนาดไหนเพื่อที่จะได้กลับมาเห็นรอยยิ้มเธออีกครั้ง ฉันต้องพยายามขนาดไหนเพื่อให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม ฉันต้องทนเห็นเธอเจ็บปวดทรมานเพราะเค้าขนาดไหน แล้วเธอจะให้ฉันให้อภัยเค้าที่ทำกับเธอเนี่ยนะ”

“ฉันเป็นคนโดนกระทำนะยุโกะ ฉันยังทำได้เลยแล้วทำไมเธอถึงจะไม่ได้ละ”ฮารุนะพูดเสียงดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าไม่ยอมรับฟัง

“นั่นสินะ”ยูโกะพูดเสียงเบาก่อนจะเมินหน้าออกไปทางหน้าต่าง”เธอยังให้อภัยเค้าได้ แล้วฉันมีสิทธิ์อะไรที่จะไปโกรธเค้าจริงไหม?” ยูโกะพูดก่อนจะหันหน้ามามองฮารุนะ จ้องเข้าไปในตาของเธอ “เธอนะ ที่ผ่านมา คงยังรักเค้าไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสินะ”

“เพระรักถึงได้ยอมอภัยให้ได้ง่ายๆ”พูดไปน้ำตาก็ค่อยๆไลไป”ฉันต้องใช้เวลาขนาดไหนก็ไม่รู้เพื่อที่ทำให้เธอกลับมายิ้มให้ฉันอีกครั้ง แล้วรอยยิ้มครั้งแรกก็ดันเป็นรอยยิ้มที่เศร้าสร้อย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ดีใจแทบตายที่ทำให้เธอยิ้มได้” ยูโกะแค่นหัวเราะเบาๆ

“แต่กลับเค้าหายไปเป็นปี เพิ่งจะกลับมาเจอกันใช้เวลาไม่ถึง10นาทีก็กลับทำให้เธอยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข ได้ ทั้งน่าอิจฉาและน่าเศร้าในเวลาเดียวกันเลยนะสำหรับฉัน”

“รู้ทั้งรู้ อุส่าเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ว่าคงเป็นได้แค่นี้ ถึงแม้ว่าจะทุ่มเทสักเท่าไรก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยพอ ที่ทำไปทั้งหมด ความรักที่ฉันมอบให้เธอ มันเคยไปถึงเธอบ้างไหมฮารุนะ หรือทั้งหมดมันไม่มีค่าแล้ว เพราะคนที่เธอรักกลับมาแล้ว?”ยูโกะถามอย่างขมขื่น

“ฉันขอโทษ”ฮารุนะพูดก่อนจะเอามือมาเช็ดน้ำตาของยูโกะก่อนที่อีกคนจะค่อยๆปัดออก และเอาหัววางไว้ทีขาของตัวเองที่ยกเข่าขึ้นมาชันไว้ ก่อนจะหนีไปมองอีกฝั่ง

“ยูจังฟังฉันนะ”ฮารุนะพยายามพูดเสียงให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้” ฉันนะไม่ปฏิเสธหรอกว่าฉันเคยรักมาริโกะมาก” ยูโกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ใช้มือกำผ้าปูเตียงแน่น ก่อนที่ฮารุนะจะเห็นและค่อยๆแกะมือยูโกะออกก่อนที่จะเอามากุมไว้ที่มือของตัวเอง “แต่ตอนนี้ฉันกับเค้าเราเป็นอดีตไปแล้ว ทุกเรื่องราวทุกความรู้สึกที่ฉันมีต่อเค้าทั้งหมด มันเป็นเพียงแค่ความทรงจำ แต่เธอต่างหากยูโกะ เธอในตอนนี้เป็นปัจจุบันของฉัน และฉันก็คาดหวังว่าเธอจะเป็นอนาคตด้วย”  ฮารุนะพูดจบก็จับยูโกะให้หันมามองหน้าเธอ

“ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ ว่าที่ฉันให้อภัยเค้าได้เพราะฉันไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนั้นกับเค้าแล้ว เพราะคนที่ฉันรักตอนนี้ก็คือเธอนะยูโกะ”พูดจบก็ค่อยๆจูบที่ริมฝีปากของอีกคนเบาๆ

“ขอโทษที่ผ่านมาไม่เคยบอก ขอโทษที่ผ่านมาที่เอาแต่ใจ ขอโทษที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของยูจังเลย ขอโทษที่....”ไม่ทันได้พูดจบประโยคเพราะอีกฝ่ายจูบเธอจากเบาๆค่อยๆเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้ฮารุนะส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ทำให้ยูโกะถือโอกาศสอกใส่ลิ้นเข้าไปในโพรงปากเพื่อชิมความหวานก่อนที่จะค่อยๆถอนออกมาเบาๆ เพราะต้องการอากาศหายใจ หน้าผากชนกัน

“ยูโกะ ฉันรักเธอ เพราะฉะนั้น ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปเลยนะ” ก่อนที่จะปิดระยะห่างที่เหลือไว้ด้วยการจูบกันอีกครั้ง

“ฉันเคยสัญญาไปแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าฉันจะรักและดูแลเธอไปจนชั่วชีวิตนะ”

“อื้ม นี่ยูจัง สัญญากับฉันได้ไหม ถ้าคราวหน้าเราทะเลาะหรือเข้าใจผิดกัน อย่าเดินหนีฉันไปแบบนี้อีก เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นห่วงเธอขนาดไหน” ฮารุนะพูดพร้อมกับน้ำใสๆที่คลออยู่ที่ตา

“ฉันสัญญา ฮารุนะ”

The End

วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

[Fic] Guilty - Kojiyuu,takaharu,Atsumina,Atsuyuu

 Prologue

“นี่ๆๆๆ ทากามินา ช่วยฉันหน่อยนะ ฉันรักเค้าจริงๆนะ”

“ยูโกะ แต่เรื่องแบบนี้ ฉันจะไปช่วยเธอได้ยังไง เธอก็รู้ว่าฉันก็ชอบเค้าเหมือนกัน”



“แต่ มินามิ เธอเคยบอกฉันไม่ใช่หรือไง ว่าฉันต้องการหรืออยากได้อะไร เธอก็จะให้”

“แล้วฉันก็ยังรักษาคำสัญญานั้นอยู่ ยูโกะ แต่เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคน เกี่ยวกับความรู้สึก ถึงแม้ว่าฉันจะยอมเลิกกับเค้า ก็ใช่ว่าเค้าจะยอมกลับมาคบกับเธอ”

“ขอแค่เธอเลิกกับเค้า ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง นะ มินามิ” เมื่อเห็นอีก่ายเงียบไม่ยอมตอบยูโกะจึงต้องใช้ไม้ตายงัดขึ้นมา

“เธอนะ คงอยากเห็นฉันตายไปจริงๆใช่หรือเปล่าละ ฉันขอแค่เรื่องที่จะมีความสุขกับชีวิตตัวเองนิดหน่อยก่อนที่ฉันจะตาย เท่านี้เธอก็ให้ฉันไม่ได้ เธอก็รู้ว่าหมอบอกว่าฉันคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”ยูโกะ เริ่มพูดเสียงคลอ “ฉันแค่อยากจะมีความสุขก่อนที่จะไปเจอหน้าพ่อกับแม่บนสวรรค์ แค่นี้เธอก็ทำให้ฉันไม่ได้ แล้วที่เธอสัญญากับพ่อแม่ไว้ละ ว่าจะดูแลฉันอย่างดี เธอจะผิดสัญญาหรือไง”

“ยูโกะ ฉันขอร้อง เธออย่าเอาพ่อ กับแม่ มาอ้าง ท่านมีบุญคุณกับฉันแค่ไหนฉันไม่เคยลืม แล้วก็เลิกเอาอาการป่วยของตัวเองมาเรียกร้องความสนใจสักทีเถอะ หมอเค้าก็บอกแล้วว่าเธอหายแล้ว แค่ต้องระวังอย่าให้มันกำเริบ หรือมีอะไรมาแทรกซ้อน แล้วเธอก็จะมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป”ทากามินาพูดเสร็จ ก่อนจะถอนหายใจ

“แล้วเรื่องที่เธอขอ ฉันก็จะทำให้ แต่เรื่องนี้ฉันต้องขอเวลาหน่อย”

“จริงนะ”

“อื้ม แต่ยูโกะ เธอต้องสัญญานะ ว่าจะไม่ทำให้ฮารุนะต้องเสียใจนะ”

“เรื่องนั้นเชื่อใจฉันเถอะ”

...................................................................